ราคาของ เครื่องผลิตไฟฟ้าดีเซล ถูกกำหนดโดยหลายปัจจัย เช่น พลังงานส่งออก ยี่ห้อ ประเภท คุณภาพของเครื่องยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ระบบควบคุม มาตรฐานการปล่อยมลพิษ อุปกรณ์เสริม การจัดหาและการตลาดในตลาด ค่าขนส่งและการติดตั้ง บริการหลังการขาย และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบขณะซื้อสินค้า
- พลังงานที่กำหนด: พลังงานมากขึ้น ราคาจะสูงขึ้น เนื่องจากต้องใช้วัสดุมากกว่าและเทคโนโลยีการผลิตที่สูงกว่า
- พลังงานสำรอง: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีพลังงานสำรองสูงกว่าย่อมมีราคาสูงกว่า
2. ยี่ห้อ
· ยี่ห้าที่รู้จักกันดี: เช่น คัมมินส์, วอลโว่, เพอร์คินส์ , เป็นต้น เนื่องจากมีคุณภาพสูงและการรับประกันบริการ ราคาของพวกเขาจึงมักจะสูงกว่าปกติ
· แบรนด์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก: ราคามักจะต่ำกว่า แต่สมรรถนะและการบริการหลังการขายอาจไม่ค่อยน่าพอใจ
3. ประเภท
· แบบเปิด: ราคาถูกกว่า เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องเสียงรบกวนต่ำ
· แบบเงียบ: เสียงรบกวนต่ำ ราคาสูงกว่า เหมาะสำหรับสถานที่เช่นโรงพยาบาลและโรงเรียน
· แบบเคลื่อนย้ายได้: มีอุปกรณ์สำหรับเคลื่อนย้าย ราคาสูงกว่า เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย เช่น ไซต์งานก่อสร้าง
4. คุณภาพเครื่องยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
· ยี่ห้อเครื่องยนต์: เครื่องยนต์คุณภาพสูง (เช่น คัมมินส์, เพอร์คินส์, วอลโว่) มีราคาสูงกว่า
ยี่ห้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าคุณภาพสูง (เช่น สแตนฟอร์ด, ไลซอนมา) ก็จะเพิ่มต้นทุนเช่นกัน
5. ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
· เครื่องปั่นไฟประสิทธิภาพสูง: เครื่องปั่นไฟที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงมีราคาแพงกว่า แต่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานระยะยาวต่ำกว่า
6. ระบบควบคุม
· การควบคุมด้วยตนเอง: ต้นทุนต่ำ การใช้งานง่าย
· การควบคุมแบบอัตโนมัติ: มีฟังก์ชัน เช่น การสตาร์ทอัตโนมัติและการเปลี่ยนแหล่งจ่ายอัตโนมัติ มีราคาสูงกว่า
7. มาตรฐานการปล่อยมลพิษ
· มาตรฐานการปล่อยมลพิษสูง: เครื่องปั่นไฟที่เป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมีราคาแพงกว่า เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ก้าวหน้ามากขึ้น
8. อุปกรณ์เสริมและชุดต่อพ่วง
· ชุดมาตรฐาน: ราคาถูกกว่า
· อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม: สิ่งของเช่น ถังน้ำมันเชื้อเพลิง, แบตเตอรี่, ท่อไอเสีย เป็นต้น จะทำให้ราคาสูงขึ้น
9. อุปสงค์และอุปทานในตลาด
· ความต้องการในตลาด: เมื่อความต้องการสูง ราคาอาจเพิ่มขึ้น
· สภาพการจัดหา: การขาดแคลนวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนอะไหล่ก็สามารถทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นได้
10. การขนส่งและการติดตั้ง
· ค่าขนส่ง: การขนส่งระยะทางไกลจะเพิ่มต้นทุน
· ค่าติดตั้ง: การติดตั้งที่ซับซ้อนหรือมีข้อกำหนดพิเศษ จะเพิ่มต้นทุนรวม
11. บริการหลังการขาย
· ระยะเวลาการรับประกัน: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีระยะเวลารับประกันยาวนานกว่า มักจะมีราคาแพงกว่า
· เครือข่ายบริการ: แบรนด์ที่มีบริการหลังการขายครอบคลุม มักจะมีราคาสูงกว่า
12. สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
· ภาษีการนำเข้า: การนำเข้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้า อาจเพิ่มต้นทุนจากภาษีศุลกากร
· การผลิตในประเทศ: เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศอาจมีราคาต่ำกว่าเนื่องจากค่าขนส่งที่ต่ำลง